บทความ

ประสบการณ์ขึ้นศาล CITI BANK

รูปภาพ
วันนี้จะมาอัพเดตหน่อยหลังจากหายไปนาน 1. City advance สินเชื่อส่วนบุคคล ยอดหนี้ 2xx,xxx บาท (ขอแก้ไขยอดหนี้หน่อยนะครับ ตัวนี้ ยอดฟ้องอยู่ที่ 17x,xxx )>> หยุดจ่าย 6/57 (ฟ้องแล้ว จากนั้น City ติดต่อ H/C 80,000 แบ่งจ่าย 3 งวด งวดแรกเริ่ม ตุลาคม - ธันวาคม เป็นงวดสุดท้าย )จะขอเล่าเกี่ยวกับตัวนี้นิดหน่อย เนื่องจากผมโดนหมายศาลให้ไปขึ้นศาล วันที่ 15 ธันวาคม ซึ่งช่วงระยะเวลานั้นมันอยู่ระหว่างการผ่อนชำระ ตอนแรกผมไม่แน่ใจว่าต้องไปขึ้นศาลมั้ยเนื่องจากเจรจา H/C ไปแล้ว แต่หลังจากโทรไปปรึษาพี่นกกระจอก ท่านแนะนำว่ายังไงก็ต้องไป เพราะการ H/C ยังไม่สมบูรณ์ แต่ถ้าเราชำระเรียบร้อยแล้วทางทนายของ City จะถอนฟ้องเอง นั่นจึงเป็นเหตุผลให้ผมได้มีโอกาสขึ้นศาลครั้งแรก การเตรียมตัว 1. หาอ่านเคสการขึ้นศาลในบอร์ด ซึ่งที่ผมเจอก็ไม่มีที่เหมือนผมเป๊ะๆซะเท่าไหร่ ดังนั้น เราก็ต้องประยุกต์เอาเอง 2. ตรวจสอบ และเตรียมเอกสารที่ต้องเอาไป (หนังสือ H/C , สลิปที่ไปจ่ายเงินถ่ายเอกสาร และที่สำคัญ "หมายศาล") 3. วันที่ศาลนัด ผมไปก่อนเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง (ศาลนัด 9 โมงเช้า) หลังจากนั้นผมก็ไปตรวจรายชื่อ พ

ตัวอย่างการคำนวณภาษ๊ ลดหย่อนจากประกันชีวิต

ตัวอย่างที่ 3 นาย ก. มีเงินได้มีเงินได้ทุกประเภทภาษีรวมทั้งปีเท่ากับ 3,400,000 บาท ได้ซื้อประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ของตนเองไว้รวมปีละ 60,000 บาท ได้ซื้อประกันชีวิตแบบบำนาญไว้ 300,000 บาท และซื้อหน่วยลงทุน RMF ไว้ในปีเดียวกันถึง 360,000 บาท นาย ก. สามารถหักลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญได้ดังนี้ (1) คำนวณยอดการใช้สิทธิหักไม่เกินร้อยละ 15 ของเงินได้ แล้วพักไว้มีเงินได้ทั้งปี 3,400,000 บาท ไม่เกินร้อยละ 15 มีเพดานสูงสุดเท่ากับ = 3,400,000 X 15% = ไม่เกิน 510,000 บาท (2) นาย ก. จ่ายเบี้ยประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ 60,000 บาท ให้นำเบี้ยประกันไปใช้สิทธิหักเบี้ยประกันชีวิตปกติก่อน 60,000 บาท คงเหลืออีก 40,000 บาท (100,000 - 60,000 = 40,000 ) จึงนำเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญมาใช้สิทธิให้ครบ 100,000 บาท (3) นาย ก. จ่ายเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ 300,000 บาท คงเหลืออีก 260,000 บาท (300,000 - 40,000) นำมาเปรียบเทียบกับตาม 1. พบว่าไม่เกิน จึงสามารถใช้สิทธิหักเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญได้เต็ม 200,000 บาท (4) นำเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ 200,000 บาท ไปรวมกับเงินค่าซื้อหน่วยลงทุน RMF

ความเข้าใจเกี่ยวกับการลดหย่อนภาษีจากเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ

การยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับการประกันชีวิตแบบบำนาญ เป็นการเพิ่มเติมค่าลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิตที่มีอยู่แล้วตามปกติ 100,000 บาท เพิ่มขึ้นอีก 200,000 บาท ซึ่งวงเงินที่เพิ่มขึ้นต้องไม่เกินร้อยละ 15 ของเงินได้พึงประเมิน             แต่เมื่อรวมกับเงินสะสมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือเงินสะสมเข้ากองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือเงินสะสมเข้ากองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน แล้วแต่กรณีหรือเงินค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพตาม กฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท ในปีภาษีเดียวกัน  หลักเกณฑ์  (1) เป็นกรมธรรม์ประกันชีวิตแบบบำนาญมีกำหนดเวลาตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป (2) ต้องเอาประกันไว้กับผู้รับประกันภัยที่ประกอบกิจการประกันชีวิตในไทย (3) มีการกำหนดการจ่ายผลประโยชน์เป็นรายงวดอย่างสม่ำเสมอ จะจ่ายเท่ากันทุกงวดหรือจ่ายในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นตามระยะเวลาการเอาประกัน ก็ได้ โดยจะจ่ายตามการทรงชีพที่อาจมีการรับรองจำนวนงวดในการจ่ายที่แน่นอน (4) มีการกำหนดช่วงอายุของการจ่ายผลประโยชน์เมื่อผู้มีเงินได้มีอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป ถึงอายุ 85 ปี หรื

ปลดหนี้บัตรเครดิต

มผ่านมาทุกอารมณ์ เกือบๆทุกเหตุการณ์อันเป็นผลกระทบมาจากปัญหาหนี้ ล้วนเจอะเจอคล้ายกับหลายๆท่านครับ ต่างกรรมต่างวาระ ว่ากันไป มาถึงวันนี้ วันที่ผมได้อิสรภาพ เป็นไทแล้ว ตลอดระยะทางการต่อสู้แก้ไขกับปัญหา ผมได้เรียนรู้สิ่งต่างๆเยอะแยะมากมาย จึงอยากจะขอมาแบ่งปันประสบการณ์ให้กับท่านที่ยังประสบปัญหาอยู่ เผื่อจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยครับ พอสรุปได้ดังนี้ครับ 1.) สาเหตุของการเป็นหนี้ คือความพ่ายแพ้ต่อ "กิเลส"ตน บวกกับ "การขาดวินัย"ในการจัดการเรื่องเงินทอง อยากเตือนไว้เป็นอุทาหรณ์ว่า เงินทองต้องใส่ใจ ต่อไปอย่าได้ประมาทเรื่องเหล่านี้ อย่าได้โทษใครเลย โทษตัวเองแหละครับ 2.) เมื่อเป็นหนี้แล้ว อย่าเพิ่มหนี้มาแก้หนี้ เพราะจะยิ่งทำให้หนี้พอกพูน ผมจากหนี้หลักไม่กี่แสนกลายมาเป็นหนี้หลักล้านเพราะใช้วิธีนี้ 3.) ตั้งสติและยอมรับความจริงเกี่ยวกับสถานภาพการเงินของเราให้ได้ เอาชีวิตประจำวันและครอบครัวเราให้รอดก่อน อย่าหลอกตัวเอง ตรงนี้สำคัญมาก เพราะมันจะได้ให้เราจัดการปัญหาได้เร็วขึ้น 4.) หากคำนวณภาระค่าใช้จ่ายที่จำเป็นแล้วไม่เพียงพอต่อการใช้หนี้ ให้หยุดจ่ายหนี้ไปเลย อย่า

เตรียมเรื่องการเงินให้พร้อม...ก่อนคิดจะลาออก

รูปภาพ
รายการ Money Plus ออกอากาศทาง FM.101 ทุกวันเสาร์-วันอาทิตย์ 15.00-17.00 น. ประจำวัน เสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2557 ดำเนินรายการโดย คุณยุทธนา กระบวนแสง บทสนทนา คุณยุทธนา   :  สวัสดีครับเหมี่ยวครับ คุณฉัตรพงศ์ : สวัสดีครับพี่ยุทธและท่านผู้ฟังครับ คุณยุทธนา   :  เดี๋ยวนี้ผู้คนมักจะเออรี่รีไทร์ด้วยอายุน้อยลงกว่าเมื่อก่อนเหมี่ยวว่าไหมครับ คุณฉัตรพงศ์ : คนใกล้ๆ ตัวก็มีเหมือนกันครับ คุณยุทธนา   : คนที่เตรียมที่ลาออกจากงานเพื่อจะไปเป็นเถ้าแก่เป็นเจ้าของธุรกิจหรือว่า เปลี่ยนงานใหม่  ในเรื่องการเงินมันมีสิ่งที่ต้องคิดต้องคำนวณให้ดีก่อนไหมว่าเราพร้อมหรือ ยังที่เราจะลาออก คุณฉัตรพงศ์ : การเออรี่รีไทร์แบบนี้ถือว่ามีความเสี่ยง  คือจากเดิมที่เราทำงานได้เงินเดือนก็รู้อยู่แล้วสิ้นเดือนจะได้เท่าไหร่  กลายเป็นว่าเออรี่ปุ๊บรายได้เข้ามาไม่แน่นอนแล้ว  และในทางกลับกันบางทีเราเคยได้สวัสดิการค่ารักษาพยาบาลจากนายจ้าง  เวลาออกไปปุ๊บสวัสดิการบอกว่าไม่มีแล้ว  จะต้องจ่ายด้วยตัวเอง  ค่ารักษาพยาบาลบางทีก็อาจจะไม่น้อย  ดังนั้นก่อนที่จะเออรี่รีไทร เช็คตัวเองให้พร้อมก่อนในเรื่องของการเงินซึ่งก็จะเป็นห

บูติกโฮเต็ล อาชีพในฝันของใครหลายๆใคร She's live someone's dream.

น้องคณะคนนึง จบทางด้านพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางอุตสาหกรรมเกษตร น้องไปเรียนต่อด้านสิ่งแวดล้อม ไปเป็นอาจารย์ทางใต้แป่บนึง   ออกมาเป็นคล้ายๆเซลล์แป่บนึง กลับกรุงมาช่วยญาติทำร้านเสื้อ    บางทีเบื่อๆก็ไปเปิดร้านก๊วยเตี๋ยว    ล่าสุดเจอกัน น้องดูแลอพาร์ทเม้นต์ 70 ห้องหน้ามหาวิทยาลัย   ดูแลบ้านให้ expat เช่าอีก 2 หลัง ช่วงหลังน้ำท่วม น้องมาทำบูติกโฮเต็ล บ่ายวันอาทิตย์วันหนึ่ง เลยนัดเจอกันที่บูติกโฮเต็ล   นั่งคุยกัน    น้องเล่าให้ฟังว่า น้องไปเที่ยวต่างประเทศกับเพื่อนและได้รู้จักคนคนหนึ่ง คุยกัน แล้วเขาก็เล่าให้ฟังว่ากำลังรีโนเวทบ้านแถวเทเวศ ซึ่งเป็นตึกแถวเก่า ใกล้กับท่าเรือเทเวศ   ที่คุณพ่อเขาใช้เป็นสำนักงานทนายความ น้องเขากลับมาก็เกิดความสนใจ ประกอบกับเจ้าของบ้านได้รับตำแหน่งใหม่ต้องย้ายไปทำงานต่างประเทศ น้องเลยหุ้นกับเพื่อนอีกสองคนเปิดบูติกโฮเต็ล     ถามน้องว่าลงทุนไปเยอะไหม   น้องบอกว่าโชคดีที่เจ้าของบ้านรีโนเวทบ้านแบบจัดเต็มไป 3 ล้าน น้องและเพื่อนๆขอเช่า   ตอนแรกเจ้าของก็ไม่ค่อยอยากให้เช่า แต่คิดไปคิดมาก็คงดีกว่าปล่อยบ้านไว้เปล่าๆ น้องเลยได้สัญญามา 3 ปี   พร้อมกับ

แนวทางรับมือเมื่อได้รับหมายศาลแบบบ้านๆ โดยคุณแก้วจ๋า ชมรมหนี้บัตรเครดิต

รูปภาพ
แก้วจ๋าขอออกตัวก่อนว่า ที่ตั้งกระทู้นี้ ไม่ใช่คิดว่า ตัวเองเป็นเซียนขึ้นศาล แค่ได้รับเกียรติจาก 11 เจ้าหนี้ยื่นฟ้องประมาณ 22 บัตรเครดิตและสินเชื่อเท่านั้นค่ะ แต่เห็นว่า ใครๆมักถามบ่อยเรื่องเกี่ยวกับหมายศาล ได้แล้วต้องทำตัวยังไงดี แก้วจ๋าจึงขอตั้งกระทู้นี้เพื่อเป็นแนวทางให้สมาชิกเลือกไปพิจารณาปรับให้ เข้ากับมูลหนี้และความสามารถของตัวเองนะค่ะ แก้วจ๋าขอเน้นแนวทาง ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนนะค่ะ ไม่เน้นข้อกฎหมาย ไม่เน้นทนาย แก้วจ๋าและชมรมฯ เข้าใจว่า ลูกหนี้ทุกคนมีความทุกข์มากพอแล้ว ไม่อยากให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มถ้าไม่จำเป็น เงินทุกบาททุกสตางค์ของคุณควรถูกใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและในยามจำเป็น จริงๆค่ะ ขอเกริ่นเรื่องระยะเวลาตามระบบก่อน โดยนับจากเดือนที่หยุดจ่ายค่ะ แต่ละท่านอาจไม่เหมือนกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ การติดต่อสื่อสารระหว่างลูกหนี้และเจ้าหนี้เป็นไปด้วยดี สม่ำเสมอหรือเปล่าด้วยค่ะ ยิ่งลูกหนี้หนี ไม่รับ ไม่รู้ และมูลหนี้สูง ยิ่งส่งผลให้เจ้าหนี้เร่งส่งฟ้องก่อนหมดอายุความค่ะ 1-4 เดือน →ทวงหนี้ , 4-6เดือน→ เริ่มขอปรับโครงสร้างหนี้ , 6เดือนขึ้นไป→ เตรียมตัวเข้าสู่กระบ