บทความ

หากลูกหนี้ตาย เจ้าหนี้จะต้องฟ้องร้องอย่างไร?

เติม...เรื่องการฟ้องลูกหนี้ที่เสียชีวิต โดยพี่นกกระจอกเทศ  ที่เคยโพสต์ไว้เมื่อ 10 ส.ค. 2011, 9:22 ( หากลูกหนี้ตาย เจ้าหนี้จะต้องฟ้องร้องอย่างไร ?) อายุความในการฟ้องคดีนั้นถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ที่ทุกคนจะต้องรู้ เพราะหากพ้นกำหนดระยะเวลาตามกฎหมายที่โจทก์มีสิทธิจะฟ้องคดีแล้ว หากนำมูลคดีนั้นไปยื่นฟ้องต่อศาล เมื่อจำเลยยกข้อต่อสู้เรื่องอายุความฟ้องคดีขึ้นต่อสู้ และตามพยานหลักฐานฟังได้ว่าคดีนั้นขาดอายุความฟ้องร้องแล้ว ศาลก็จะพิพากษายกฟ้อง เป็นเหตุให้ลูกหนี้หรือทายาทของลูกหนี้หลุดพ้นจากภาระหนี้สินนั้นไปได้ ในกรณีที่ลูกหนี้ถึงแก่ความตาย ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กำหนดอายุความในการฟ้องร้องคดีไว้ ใน มาตรา ๑๗๕๔ วรรค ๓ ว่า “ ภายใต้บังคับแห่ง มาตรา ๑๙๓/๒๗ แห่งประมวลกฎหมายนี้ ถ้าสิทธิเรียกร้องของเจ้าหนี้อันมีต่อเจ้ามรดกมีกำหนดอายุยาวกว่าหนึ่งปี มิให้เจ้าหนี้นั้นฟ้องร้องเมื่อพ้นกำหนดหนึ่ง ปี นับแต่เมื่อเจ้าหนี้ได้รู้ หรือควรได้รู้ถึงความตายของเจ้ามรดก ถึงอย่างไรก็ดี สิทธิเรียกร้องตามที่ว่ามาในวรรคก่อนนั้น มิให้ฟ้องร้องเมื่อพ้นกำหนดสิบปีนับแต่เมื่อเจ้ามรดกตาย ” ดังนั้นจากตัว

อายุความฟ้องร้อง ในคดีแพ่ง (หนี้เงิน)

อายุความฟ้องร้อง ในคดีแพ่ง (หนี้เงิน) อายุความในการฟ้องสำหรับ "หนี้" ที่ผิดนัดชำระ...ให้นับจาก วันที่ผิดนัดชำระครั้งสุดท้าย...จนถึงวันที่ฟ้องคดี สำหรับอายุความของหนี้สินประเภทต่างๆ...เท่าที่ผมได้เคยสอบถามกับ ผู้รู้ทางกฏหมาย...ได้ความมาตามนี้ครับ - หนี้บัตรเครดิต...อายุความในการฟ้อง หลังจากมีการผิดนัดชำระตามสัญญา = 2 ปี - หนี้วงเงินเบิกเกินบัญชี...อายุความในการฟ้อง หลังจากมีการผิดนัดชำระตามสัญญา = 10 ปี - หนี้สินเชื่อส่วนบุคคล รวมทั้งบัตรกดเงินสด...อายุความ = 5 ปี (สัญญากู้ยืมที่มีการผ่อนต้นคืนพร้อมดอกเบี้ยเป็นงวดๆ) - หนี้เงินกู้...อายุความ = 10 ปี (สัญญากู้ยืมที่กำหนดชำระเงินต้นคืนทั้งหมดในครั้งเดียว) - หนี้ที่เกิดจาก สัญญาเช่าซื้อ...อายุความในการฟ้อง หลังจากมีการผิดนัดชำระตามสัญญา = 2 ปี ที่ผ่านมาส่วนใหญ่...พวกเรามักจะเข้าใจกันว่า ให้นับจากวันที่จ่ายค่างวดเป็นครั้งสุดท้าย...จนถึงวันที่ฟ้อง ซึ่งเป็นการเข้าใจที่  ผิด  ครับ อย่าลืมนะครับ ภาษาของกฏหมายเขียนเอาไว้ว่า ให้นับจากวันที่ ผิดนัดชำระครั้งสุดท้าย  จนถึงวันที่ฟ้อง ทีนี้เรามาตีความกันสักหน่อยนะครับ คำว่า วันที่ผิดนัดชำร

ปัญหาที่พบบ่อยสำหรับคนเริ่มต้นทำธุรกิจ

1 . ปัญหาการขาดสภาพคล่อง ก่อนที่จะทิ้งงานประจำมาทำธุรกิจส่วนตัวนั้น ควรจะจัดสรรเงินเก็บไว้ดังนี้ 1. เงินที่ต้องใช้ในการดำรงชีวิตในแต่ละเดือน เช่น คุณต้องใช้เงินเดือนละ 30,000 เป็นค่ากินอยู่ค่าเช่าและค่าสาธารณูปโภค ควรเก็บเงินสดให้ได้อย่างน้อย 12 เดือน คือ 360,000 นั้นหมายความว่า คุณอยู่รอดได้ 12 เดือนโดยปราศจากรายได้ 2. เงินที่ใช้ในการบริหารธุรกิจส่วนตัวของคุณ เช่น ค่าเช่า ค่าน้ำไฟ ค่าพนักงาน ค่าวัตถุดิบ เป็นต้น สมมติว่า ในแต่ละเดือนคุณตีแล้วมีค่าใช้จ่ายในการ run ธุรกิจ 50,000 คุณต้องอยู่ให้ได้อย่างน ้อย 6 เดือน หรือ ปีนึงกว่าธุรกิจจะเข้าที่ ดังนั้นเอา ุ6 คูณ คุณต้องมี 300,000 ปัญหาที่เจอคือ ส่วนใหญ่จะไม่แยกเงินกันเป็นคนละเก๊ะ เอามารวมกัน หรือ ดึงเงินส่วนตัวมาใช้ในธุรกิจ ดึงเงินธุรกิจไปใช้ส่วนตัว ทำให้ขาดสภาพคล่อง บางรายก็ต้องไปกดบัตรกดเงินสด ทำให้เป็นหนี้พัวพัน หาเท่าไหร่ต้องใช้หนี้หมด การเริ่มธุรกิจเป็นสิ่งดี แต่คุณควรจะมีเงินสดสำรองไว้พอสมควรเพื่อปัองกันปัญหา Cash is king. เขียนตามประสบการณ์ที่ให้คำแนะนำในการแก้ไขปัญหาหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล

เมื่อโดนทวงหนี้บัตรทางโทรศัพท์

บ่ายวันหนึ่ง...เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น “กริ๊งงงงงง...”  (รับสายแล้ว ได้ยินเสียงทางนั้นพูดขึ้นว่า) หมาทวงหนี้  : ขอเรียนสายคุณนกกระจอกเทศครับ นกกระจอกเทศ  : ครับ...ผมนกกระจอกเทศพูดสายอยู่ครับ หมาทวงหนี้  : ผมโทรมาจากสำนักงานหมาขี้เรื้อนครับ จะสอบถามเกี่ยวกับยอดหนี้ของธนาคาร กะ-ลุ๊ก-ปุ๊ก ไทย ไม่ทราบว่ามีการชำระเข้ามาบ้างหรือยังครับ? นกกระจอกเทศ  : ยังเลยครับ หมาทวงหนี้  : ยอดเงินคงค้างของคุณ มันหลายเดือนแล้วนะครับ ไม่ทราบว่าจะชำระได้เมื่อไหร่? นกกระจอกเทศ  : เมื่อมีตังค์ครับ...แต่...ตอนนี้ยังไม่มี หมาทวงหนี้  : แล้วเมื่อไหร่จะมีล่ะครับ? นกกระจอกเทศ  : เมื่อไหร่เหรอ?...อืม...มีเมื่อไหร่ ก็เมื่อนั้นแหละครับ หมาทวงหนี้  : คุณไม่มีความคิดที่จะชำระเข้ามาบ้างเลยหรือครับ? นกกระจอกเทศ  : ไอ้“ ความคิด ”น่ะ...ผมมีครับ แต่ไอ้ที่มันไม่มีน่ะ ก็คือ" กะตังค์ "ครับ...เข้าใจไหมครับ? หมาทวงหนี้  : แล้วคุณมีวิธีการที่จะหาเงินมาชำระให้ทางเราได้ยังไงบ้างครับ? นกกระจอกเทศ  : อืมมม!!!...ไม่รู้สิ...แล้วคุณมีวิธีการที่จะช่วยให้ผมหาเงินได้บ้างไหมล่ะครับ? หมาทวงหนี้  : แล้วตอนนี้ คุณไม่มีเงินติดตัวบ้างเลยเ

หมายศาลจะถุกส่งไปที่ไหน

รูปภาพ
หมายศาล" จะต้องถูกส่งไปยังที่อยู่ของผู้ที่ถูกฟ้อง(บ้าน/ภูมิลำเนา ของจำเลย)ณ ปัจจุบันเท่านั้น...จึงจะถูกต้องตามขั้นตอนของกฏหมาย ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของโจทก์(เจ้าหนี้) ก่อนที่จะทำการฟ้องลูกหนี้(จำเลย)ให้เป็นคดีความ โจทก์จะต้องทำการเช็คทะเบียนบ้านของลูกหนี้ให้ Update และถูกต้องตามความเป็นจริงเสียก่อน ว่าลูกหนี้ที่โจทก์จะทำการฟ้องผู้นั้น อยู่ที่ใดตามทะเบียนบ้านที่ถูกต้อง ณ ปัจจุบัน โดยการไปเช็คข้อมูลที่อยู่ของลูกหนี้ ที่"กองทะเบียนราษฎร์" สังกัดกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ให้ถูกต้องเสียก่อนที่จะส่งเรื่องฟ้อง...มิฉะนั้น อาจเข้าข่าย"ฟ้องผิดสถานที่"ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ หมายศาล จะมีลักษณะที่เป็นชุดกระดาษหนาเป็นปีกๆ (มีจำนวนกระดาษหลายๆแผ่น จึงทำให้ดูหนามากๆ) และการปิดหมายศาลดังกล่าว จะต้องกระทำโดยเจ้าหน้าที่ของศาล (แมสเสนเจอร์ศาล) เป็นผู้นำส่ง ไม่ใช่กระทำโดยฝ่ายโจทก์หรือฝ่ายเจ้าหนี้ เป็นผู้นำส่ง โดยเจ้าหน้าที่ของศาลผู้นำส่งหมาย จะนำเอาหมายศาลมาผูกเชือก แล้วทำการหาที่แขวนหรือที่ผูกห้อยไว้ที่บริเวณหน้าบ้านของจำเลย เช่นที่ประตูบ้าน หรือที่บริเวณประตูร

ปล่อยกู้หนี้นอกระบบมีหนาว

ปล่อยกู้หนี้นอกระบบมีหนาว เจอ พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา อ้างอิงข้อมูลจาก www.thairath.co.th/content/836471 และ www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9600000004722 มีผลแล้ว! กม.“ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด” ชี้ เป็นความผิดอาญาแผ่นดินอันยอมความไม่ได้ เพิ่มโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เน้น เจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดจะมีโทษสูงขึ้น วันนี้ (15 ม.ค. 60) มีรายงานว่า ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พระราชบัญญัติ ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2560 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ให้ไว้ ณ วันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2560 เป็นปีที่ 2 ในรัชกาลปัจจุบัน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ดังต่อไปนี้ มาตรา 1  พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “ พระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2560 ” มาตร

Wealth ตวามมั่งคั่ง

Wealth is not authored by material possessions, money, or "stuff" but by what I call fundamental "F's": Family (relationships), fitness (health) and freedom (choice). Within this wealth trinity is where you will find the true wealth and, yes, happiness. - MJ DeMarco- The Fastlane Millionaire . ความมั่งคั่งที่แท้จริงไม่ได้ขึ้นอยู่กับวัตถุที่เรามี เงินทอง หรือ สมบัต แต่อยู่ภายใต้ัสามสิ่งนี้ Family คือ ความครัว หรือ ความสัมพันธ์ คู่รัก เพื่อน ญาติ บางคนทำงานหนักจนลืมดูแลคนในครอบครัว หรือ ไม่มีเวลาให้ลูก หรือ ห่างๆเพื่อนไป Fitness คือ สุขภาพกายใจที่ดี มีเงินแต่นอนติดเตียง หรือ สะสมโรคไว้เยอะมากก็ไม่ไหวนะครับ Freedom คือ ได้เลือกในสิ่งที่ตัวเองต้องการ คนบางคนมีรายได้ แต่ไม่มีความมั่งคั่ง เพราะมีโอกาสได้เลือกอะไรทั้งนั้น คนที่มั่งคั่งจริง จะเลิกได้ว่าตัวเองต้องการไม่ต้องการอะไร