บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก 2012

ขอคืนภาษีเงินได้...จากการขายบ้านเก่าเพื่อซื้อบ้านหลังใหม่

ขอคืนได้ครับ แต่ต้องอยู่ในเงื่อนไขของกรมสรรพากร คือ  1.ต้องขายบ้านเก่า-ซื้อบ้านใหม่ในระยะเวลา 1 ปี 2.ขอคืนได้ภายใน 3 ปี เอกสารที่ต้องเตรียมคือ 2.1 แบบ ค.10 กรอกรายละเอียดในแบบฟอร์ม 2.2 เอกสารขายบ้านเก่า- 2.2.1 สัญญาจะซื้อจะขาย 2.2.2 สัญญาซื้อขาย (กรมที่ดิน) ใช้สำเนา 2.2.3 ใบเสร็จรับเงินเสียภาษีเงินได้ (ฉบับตัวจริง) 2.2.4 สำเนาทะเบียนบ้านที่ขาย-บัตรประชาชน 3.ขายแล้วไปซื้อบ้านใหม่ 3.1 เอกสารเกี่ยวกับสัญญาจะซื้อจะขาย 3.2 สัญญาซื้อขาย (ออกจากกรมที่ดิน) 3.3 สัญญาจำนองที่ดิน (กู้ผ่านธนาคาร) 3.4 ใบเสร็จรับเงิน (ของคู่สัญญา) เอกสารต่าง ๆ สามารถถ่ายสำเนาได้ ยกเว้น ตอนขายบ้านเก่าที่เสีย ภาษีเงินได้ ต้องใช้ตัวจริงเท่านั้น (ถ้าเอกสารหายจะทำอย่างไร ก็ไปแจ้งความที่สถานี ตร.ไว้เป็นหลักฐานแนบไปกันสำเนาได้) -ปัญหาก็คือจะช้าใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 1-2 เดือน - หากตอนซื้อบ้านใหม่ ถ้ากู้ร่วมกัน ต้องแนบใบจดทะเบียนสมรสไปด้วย    กฎกระทรวง (การคลัง) อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 4 แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 20) พ.ศ.2513 และมาตรา

กิจกรรมอบรมแก้ไขปัญหาหนี้(ฟ​​รี) ที่ มพบ.เดือนมกราคม 2556

เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางในการเผยแพร่ความรู้ในการแก้ไขปัญหาหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ให้กับลูกหนี้และบุคคลทั่วไปได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น ชมรมหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล จึงได้จัดให้มีการอบรมแก้ไขปัญหาหนี้ฯ เป็นประจำทุกสามเดือน การอบรมดังกล่าวเป็นการอบรมฟรี! ไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น!เพียงแต่จะไม่มีบริการอาหารและเครื่องดื่มให้เท่านั้น จำนวนผู้เข้าอบรมไม่เกิน 70 ท่าน ในแต่ละครั้งจะมีกรรมการชมรมฯ สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปเป็นวิทยากรให้ความรู้แก่สมาชิก โดยชมรมจะมีการประกาศหน้าบอร์ดให้ทราบว่าในแต่ละครั้งจะมีการอบรมขึ้นในวัน เวลาใด และกรรมการท่านใดเป็นผู้ดูแลการอบรมฯ การอบรม(ฟรี)ครั้งแรกประจำปี 2556 คือ วันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม 2556 เวลา 09:30 น. - 16:00 น. สถานที่อบรมคือ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (ห้องประชุม ชั้น 2) เลขที่ 4/2 ซอยวัฒนะโยธิน (ราชวิถี 7) แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ(ดูแผนที่ตั้งมูลนิธิอยู่ด้านล่าง)  วิทยากรผู้ดูแลการอบรม(ฟรี) ประจำเดือมกราคม 2556 คือ คุณ นกกระจอกเทศ (ประธานชมรมฯ) คุณ batk (กรรมการ) ชมรมหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล จึงใคร่ขอเรียนเ

ประสบการณ์ซื้อบ้านแบบหนี้บัตรเครดิตท่วมหัว

ประสบการณ์การซื้อบ้านแบบหนี้บัตรท่วม 3 Years, 4 Months ago Karma: -1   หวัดดีครับเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาผมแนะนำให้ท่านที่สนใจอ่านกระทู้ที่ผมเคยเข้าไปปร� ��กษามาก่อนนะครับจะได้ต่อติด http://debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&Itemid=10&func=view&catid=2&id=25984  หลังจากที่คุณ p_chan ได้แนะนำให้ผมนำเครดิตบูโรไปถามเจ้าหน้าที่ธนาคารเกี่ยวกับเรื่องกู้บ้าน ผมได้รับบูโรตัวเองในสัปดาห์ที่แล้วสถานะปกติทั้งหมด 21 บัญชี ( เยอะไหมครับ ไม่น่าเชื่อว่าตัวเองจะรอด Black list มาได้จนถึงทุกวันนี้ )  ทำให้ผมเริ่มมั่นใจเดินเรื่องยื่นกู้ซื้อบ้านกับธนาคาร ธอส. ที่บริษัทผมมีสัญญาอยู่กับธนาคารนี้ ผลปรากฎว่าผมสามารถกู้บ้านได้ในวงเงิน 2 ล้าน 6 แสนบาท ตามฐานเงินเดือนของผม  ทั้งที่ยังมีหนี้บัตรเครดิตอยู่เกือบ 5 แสนบาท ครับพิมพ์ไม่ผิดหรอกครับ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลยถ้าธนาคารจะต้องนำ 10% ของการจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำของผมซึ่งก็เกือบ 5 หมื่นบาท  มาหักออกจากเงินเดือนผมแล้วนำไปคำนวณวงเงินกู้บ้าน( เพราะบางเดือนติดลบด้วยซ้ำ ) ตามที่หลายๆคนเคยแนะนำ ทำให้บางท่านถึงกลับออกอาการกลัวไม่ก

เศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจไทย ผลกระทบและการปรับตัวของ SMEs ไทย

เศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจไทย ผลกระทบและการปรับตัวของ SMEs ไทย      ทิศทางของเศรษฐกิจโลกได้ส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจไทยผ่านทางภาคการส่งออกและการผลิตสินค้าอุตสาหกรรม และมีผลต่อเนื่องมายังการดำเนินธุรกิจของกิจการทุกขนาด โดยเฉพาะกลุ่มที่มีการพึ่งพาตลาดต่างประเทศในสัดส่วนสูง เห็นได้จากมูลค่าการส่งออกและดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของไทยในภาพรวมและของ SMEs ปรับตัวลดลงในช่วง 8 เดือนแรก ก่อนจะทยอยฟื้นคืนมาในช่วงเดือนก.ย. และ ต.ค. 2555 ซึ่งสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่เริ่มมีสัญญาณบวกเกิดขึ้นในฟากฝั่งเอเชีย โดยเฉพาะจีนและอาเซียน      สำหรับช่วงที่เหลือของปี 2555 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า เศรษฐกิจโลกที่ยังอยู่ท่ามกลางความไม่แน่นอนยังคงเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่จะมีผลต่อการประคองอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะในภาคการผลิตและภาคการส่งออก ซึ่งแม้ผลของฐานเปรียบเทียบที่ต่ำในปีก่อนหน้า อาจช่วยให้อัตราการเติบโตสามารถขยายตัวได้ในระดับสูง แต่ในมิติของมูลค่านั้นคงต้องติดตามต่อไปอย่างใกล้ชิด โดยแม้ว่าจะเริ่มมีสัญญาณบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนและอาเซียน รวมทั้งการฟื้นฟูความเสียหายจากภัยธรรมชาติในสหรัฐฯ ซึ

ตัวอย่างการติดเครดิตบูโรก็กู้ซื้อบ้านได้

จาก  http://www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=27702&Itemid=52#27703 ทำไงดี เครดิตเสีย??? แย่แน่ๆ ??? แล้วต่อไปจะทำธุรกรรมทางการเงินได้ไหมเนี่ย ??? เชื่อว่าสมาชิกหน้าใหม่ๆหลายคนคงมีคำถาม ความกังวลเรื่องนี้อยู่ วันนี้ขอมาแชร์ประสบการณ์นะคะ ก่อนอื่นขอทักทาย พี่ๆเพื่อนๆสมาชิกเก่าหน้าเดิมที่อาจพอจำกันได้ ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องนะคะ รวมถึงสมาชิกใหม่ๆ ที่กำลังก้าวเข้ามาในวังวนของความเครียด เหนื่อย ล้า ซึ่งอยากบอกว่าอีกไม่นานมันจะผ่านไป และมันจะดีขึ้น เพราะเราก็เป็นคนนึงที่ผ่านมาแล้ว เราไม่ได้เข้ามาที่นี่นานมากๆเกือบ 2 ปีได้เพราะมัววุ่นวายกับการรับภาระหนี้ก่อนใหญ่กว่าหนี้บัตรนั่นก็คือ หนี้ชีวิต ต้องดูแลเจ้าตัวน้อยที่เพิ่งเตาะแตะ ไหนจะงานที่กำลังวุ่นวายรุมเร้า วันนี้โอกาสดี ลูกหลับ สามีหนีเที่ยว นึกคิดถึงชมรมขึ้นมา พอเข้ามาโอ้ววว คำถามเดิมๆ ยังว่อนอยู่ไปหมด นับถือน้ำมจกรรมการจริงๆนะจุดนี้ที่ยังตอบกันทุกวี่วัน เราเคยเป็นคนนึงที่เป็นหนี้เหมือนทุกๆคนในนี้ ขอเล่าข้ามเลยแล้วกันว่าจับพลัดจับพลูหนี้งอกเงยมา 4 แสน จากบัต

การเลือกชัยภูมิที่อยู่อาศัยให้เหมาะกับลัคนาราศี

การเลือกชัยภูมิที่อยู่อาศัยให้เหมาะกับลัคนาราศี การเลือกชัยภูมิที่อยู่อาศัยให้เหมาะกับลัคนาราศี ก่อนอื่นขอยกคำกล่าวของอาจารย์ เศก ดุสิต ผู้ซึ่งเจ้าของ Blog นับถือว่าเป็นครูทางโหราศาสตร์ ท่านกล่าวไว้ดังนี้ การเรียนรู้ว่าชีวิตของเราจะต้องประสบกับอะไรก่อนที่จะถึงเวลานั้น นับว่าเป็นความไม่ประมาทอย่างหนึ่ง ผมว่ามันเป็นทสิ่งที่ดี ที่เราจะได้รู้ล่วงหน้าว่าอะไรจะเกิดกับเรา ถ้าเป็นสิ่งที่ร้าย เราจะได้ระวังตน ไม่ประมาท อย่างน้อยก็ทำให้หนักเป็นเบาได้ และเมื่อเหตุร้ายเกิดขึ้นจริง เราก็จะไม่ทุกข์ทนหม่นไหม้มากนัก เพราะเรารู้ตัวอยู่แล้วว่ามันจะเกิดขึ้น แต่ ถ้ามันเป็นสิ่งดี เช่นจะมีโชคลาภ เราก็จะได้เตรียมตัวที่จะรับรองสิ่งที่ดีนั้น หาวิธีที่จะได้มาให้แน่นอนยิ่งขึ้น ไม่ทอดหุ่ยรอคอยโชคแต่เพียงอย่างเดียว เพราะแม้ดวงจะบอกว่ามีโชค แต่เราไม่ทำอะไรเลย โชคก็ไม่รู้จะเข้ามาหาเราได้ทางไหน จริงไหมครับ ท่านที่เกิดราศีดัง ต่อไปนี้ ราศี พฤษภ สิงห์ พฤศจิก กุมภ์ เป็นพวกนิ่งสงบ ไม่ชอบวุ่นวาย ไม่ควรอยู่บ้านปากซอย ควรอยู่ลึกเข้าไปไม่เกินครึ่งซอย เหมาะอยู่กับบ้านติดดิน ไม่เหมาะแก่การอยู่คอนโด ช

บ้านทีถูกกับดวง ชาวราศีพฤษภ

ชาวราศีพฤษภ เป็นราศีแห่งธาตุดิน แต่มีภพพันธุเป็นธาตุไฟ ธาตุไฟเป็นธาตุแห่งแสงสว่าง คน ราศีนี้ ควรปลูกบ้าน หรือ อยู่บ้านที่มีภูมิลำเนาใกล้ชิดกับผู้อื่น คือ มีเพื่อนบ้านเยอะ บ้านควรหันหน้าไปยังทิศตะวันออกจะดี ซึ่จะได้รับแสงแดดแรกในยามเช้าทันที (อันตรงกับธาตุของที่อยู่อาศัย) บ้าน ที่อยู่ไม่ครวรเป็นบ้านหลังแรกในถนนนั้น หรือ อยู่ปากซอยควรอยู่ลึกเข้าไปในซอยเป้นหลังที่สามที่สี่ที่ห้าก็ได้ ถ้าซอยนั้นยาวมากก็คะเนว่าส่วนต้นของซอย นับจากกึ่งกลาง ถ้าอยู่ค่อนไปทางท้ายซอยแล้วจะทำให้เจริญช้า (หมายถึงผู้มีลัคนาสถิตราศีพฤษภเท่านั้น๗ ส่ง ที่ควรทำเพื่อเสริมโฉลกให้แก่ลัคนาราศีพฤษภ ถ้าได้ที่อยู่อาศัยอันควรแล้วควรที่จะเลี้ยงสัตว์สี่เท้าเอาไว้ด้วย เช่น สุนัข แมว วัว ควาย หรือไม่ก็มีรูปสัตว์สี่เท้้าไว้ในบ้าน จะเป็นภาพถ่ายหรือรูปปั้นของเล่นอะไรก็ได้ แต่ต้องเป็นสิ่งที่ผู้ อยู่ตั้งใจนำเอาเข้ามา สิ่งนี้จะเป็นการเสริมโฉลกชีวิตให้ผู้อยู่มีความรื่นรมย์ผ่องใส มีผู้ให้ความอุดหนุนช่วยเหลือไม่ได้ขาดอีกด้วย

ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับหน้าที่ของศาล

าจะว่ากันตามกฏหมายแล้ว หากมีหนี้ซึ่งกันและกัน แล้วเกิดการไม่ชดใช้หนี้กันขึ้น ฝ่ายที่เป็นเจ้าหนี้จะต้องไปฟ้องร้องต่อศาลแพ่ง(หรือศาลคดีผู้บริโภคก็ตาม) เพื่อให้ศาลมีคำสั่งให้ลูกหนี้ชำระหนี้ดังกล่าวตามคำฟ้อง (คดีดำ) โดยศาลท่านจะมีหน้าที่เพียงแค่พิพากษาว่า จำเลยจะต้องจ่ายหนี้คืนให้กับโจทก์หรือเจ้าหนี้ เป็นเงินเท่าใด? ดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียมควรจะต้องเป็นเท่าไหร่? จึงจะเป็นธรรมตามกฏหมาย...เท่านั้น ท่านจะไม่มีหน้าที่โดยตรงในการไกล่เกลี่ย หรือออกคำสั่งให้ผ่อนจ่ายหนี้ได้หรือไม่? ผ่อนเท่าไหร่? และผ่อนอย่างไร? เพราะอาจเสี่ยงต่อการถูกมองได้ว่า ศาลลำเอียงเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง...ดังนั้น ส่วนมากท่านจะไม่พิจารณาในเรื่องการผ่อนชำระ ด้วยตัวของท่านเองหรอกนะครับ ยกเว้นจำเลยกับทนายโจทก์จะตกลงกันได้เองต่อหน้าศาล หรือไม่งั้นจำเลยก็ต้องภาวนา ขอให้ได้เจอกับศาลที่ใจดีมากๆ และท่านเข้าข้างช่วยคุณแบบสุดๆ ท่านอาจจะลงมาช่วยพิจารณา ในเรื่องการขอผ่อนของคุณให้...ก็เป็นไปได้...ก็คงต้องไปรอลุ้นกันต่อไปใน ชั้นศาลเอาเองนะครับ และถ้าหากลูกหนี้ถูกศาลแพ่งพิพากษาแล้ว ก็ยังไม่ยอมใช้หนี้ตามคำพิพากษาอีก(หรือ

เทคนิคการกู้เงินเพื่อทำธุรกิจบ้านเช่า

รูปภาพ
เทคนิคการกู้ของผมคือ เคลียร์หนี้ให้บางเฉียบที่สุด ไม่มีเลยยิ่งดี เพื่อให้พร้อมเสมอ บัตรเครดิต ปิดได้ปิด โปะได้โปะ ตัวผมเองไม่มีหนี้บัตรเครดิตเลย วงเงินการกู้ธนาคาร ลงไปในบ้านเช่าเต็มทุกบาท โดยปกติ ธนาคารพิจารณาคร่าวๆอนุมัติยอดเงินผ่อนไม่เกิน 33% ของเงินเดือน สมมติ ฐานเงินเดือน 20,000 บาท ( ถ้าติดผ่อนบัตรเครดิต ผ่อนรถความสามารถในการกู้ก็ลดลงตามลำดับ) สมมติไปเจอทีเด็ดมาหลังหนึ่ง 1,200,000 ล้าน แถวนั้นเขาให้เช่า 8,000-8500 บาท จากฐานเงินเดือน 20,000 ถ้ากู้ไปสัก 1 ล้านน่าจะสบายตัว ตบกระเป๋าสตางค์เสียงทุ้มหนักมี สองแสน นำไปว่าดาวน์ เคสนี้ดี น่าสนใจ ได้เงินสดเข้า ยิ่งถ้าทำเลดีมีอนาคตผมซื้อเลย ใครมีงานประจำบริษัทมั่นคงเงินได้เปรียบกู้เพราะจะกู้ได้สะดวกโยธิน ถ้าเป็นพ่อค้าแม่ค้าเจอคำถามเพียบ ให้กลับไปเอารายรับรายจ่ายมาแสดงแต่อย่าไปกลัว ซื้อบ้านหลายๆหลังทำอย่างไร ? บ้านจะซื้ออะไรกันได้บ่อยๆ หลังหนึ่งมิใช่บาทสองบาท ผมมีเทคนิคเรื่องนี้ดังนี้ เราเกือบทุกคนจะมีเงินเดือนถูกมั้ยครับ เราคาดหวังว่าเงินเดือนจะเพิ่มขึ้นทุกปี สมมติเผอิญเราหวังเงินเดือนขึ้

เทคนิคการทำธุรกิจบ้านเช่า

ก่อนลงบทความต่อไปขอตอบคำถามก่อนนะครับ เรียน คุณวายุหมุน กำไร แบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกค่าเช่า ส่วนที่สองกำไรจาการขาย 1. กำไรจากค่าเช่า การคำนวนกำไร คำนวนจาก รายรับจากค่าเช่า(หลังหักค่าใช้จ่ายและภาษี) หาร ด้วยเงินลงทุน(เงินดาวน์) หลังที่ผมกำไรน้อยสุดคือ 5% ต่อปี มากที่สุดค่าเช่าน่าจะไปแตะอยู่ที่ 30 % ต่อปี ผมขอใช้ค่าเฉลี่ยประมาณการในการตอบคำถามนะครับ เฉลี่ยทั้งพอร์ทน่าจะอยู่ 8-10 % ต่อปี 2. กำไรจากขาย ตัวนี้ค่อนข้างได้น้ำได้เนื้อกว่าครับ ถ้าถัวเฉลี่ยแล้วหารตามจำนวนปีที่ถือครอง น่าจะ 10-15% ต่อปีน่าจะได้ครับ ปล. เป็นข้อมูลการประมาณการนะครับ อย่างไรถึงเรียกว่า “ ถูก ” ? ผมใช้เทคนิคแรกคือ “ ราคาปล่อยเช่า มากกว่าราคาผ่อน ” ยิ่งต่างกันยิ่งมากยิ่งดี กระแสเงินสดจะได้ไหลเข้าทุกเดือน ได้กระแสเงินสดมามากๆต่อเดือนทำให้เรา มีโอกาสสะสมเงินลงทุนได้เร็วขึ้น ดังคำกล่าวที่ว่า Cash is king. เทคนิคที่สอง เมื่อหาบ้านได้แล้วต้องรู้มูลค่าบ้านในทางวิชาการมีวิธีหามูลค่าบ้านหลายวิธี นู่นนี่นั่นโน่น แต่เทคนิคที่ผมใช้เสมอคือ สืบราคาบ้านหลังอื่นในละแวกนั้น ซึ่งจะทำให้เรารู้ร

ธุรกิจบ้านเช่า

เอามาจาก http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B12906996/B12906996.html เทคนิคการปล่อยเช่าบ้าน เตรียมตัว เตรียมใจ และเตรียมทุน เตรียมตัวโดยการลับสมองก่อนเลย ก่อนจะทำธุรกิจใดๆสิ่งแรกที่ต้องมีคือ ความรู้ในเรื่องของธุรกิจ นั้นๆเป็นอย่างดี ความรู้ที่ต้องมีเช่น การดูทำเล ภาษี ให้เช่าแบบไหนเรียกว่ากำไรแบบไหนขาดทุน ผมแนะนำหนังสือชุดหนึ่งครับ ไปจัดมานั่งอ่านกันได้ หนังสือของ อ.อนุชา กุลวิสุทธิ์ ท่านเขียนสรุปได้อ่านเข้าใจง่ายมากๆครับ ถ้าเริ่มเลยก็อ่านเล่มนี้ก่อน “ ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แบบมืออาชีพ ” ปกขาว รูปขวาล่าง อ่านจบชุดนี้เสร็จปั๊ป อย่าว่าแต่บ้านเช่าเลยครับทำโครงการสร้างขายยังไหว 5555+ ถัดมาคือ เตรียมใจ ธุรกิจบ้านเช่านี้เป็นธุรกิจลักษณะ ช้ า ๆ เ ฉื่ อ ย ๆ เ ก็ บ ไ ป เ รื่ อ ย ๆ แต่ ย า ว น า น โดยมากมักไม่หวือหว่า ถ้าจะเน้น รวยรวดเร็วนี่ท่าจะยากส์สักนิด แต่ถ้า เ น้ น ทำ น า น ๆ อ ด ท น มุ่ ง มั่ น ทำ ไ ป เ รื่ อ ย ๆ รั บ ร อ ง ร ว ย 5555+ กายพร้อม ใจพร้อม ก็ต้องเตรียมทุน สิ่งที่ต้องมีอีกสิ่งหนึ่งตามมาติดคือ ต้องมีทุน ทุนจะมากจะน้อยขึ้นอยู่กับธุรก