บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก 2015

น้าสุข กับการเกษียณที่ไม่เป็นสุข

น้าสุข กับการเกษียณที่ไม่เป็นสุข แกเกษียณมาจากการประปา ได้ 6 ปี ได้เงินมาก้อนนึง 1.7 ล้านบาท แต่ก็หมดลงภายในเวลา 4 ปี ตอนแกเกษียณ แกเอาเงินไปออกแท๊กซี่มือสอง มา 2 คัน ตกคันละ 400,000 แกไม่ขับเอง จ้างคนขับ กะว่าได้วันละ 400 ต่อคัน มีสองคันก็แปดร้อย เดือนนึงไม่ต้องทำไร ได้สามหมื่นเนาะๆ สบายๆ แต่ที่ไหนได้ คนขับที่มาเช่ารถแกมันรู้กันกับอู่ รถแกเดี๋ยวเสีย เดี๋ยวซ่อม ซ่อมตลอดๆ จนบานปลายไม่ได้เงิน นิสัยส่วนตัวแกก็ไม่เคยทำมาหากินอย่างอื่น เครียด กินเหล้า โดนผู้หญิงหลอกอีก เงิน 1.7 ล้านหมดไปภายใน 4 ปี นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ควรมีความรู้ทางการเงินก่อนเกษียณ อย่าทำอะไรที่ไม่ถนัด ก่อนเกษียณก็หาความรู้บ้าง อะไรไม่เคยทำก็ศึกษา แก่แล้วโอกาสแก้ตัวหมดแล้วล่ะนั ตอนนี้แกรับจ้างเฝ้าสุขา เก็บตังค์หน้าห้องน้ำ พอประทังชีวิต

เมื่อฉันเลิกกิจการเกสต์เฮ้าส์

รูปภาพ
เลิกกิจการเกสต์เฮ้าส์ ตอนนี้ก็ได้เลิกกิจการเกสต์เฮ้าส์ไปแล้วด้วยหนี้สินหลักแสน  ตอนแรกทางเจ้าของเก่าประกาศขายมานานแล้ว แต่ไม่มีใครซื้อ  แกเคยทำเองมาก่อน แต่เจอช่วงกีฬาสีเลยไปไม่ไหว ต้องให้พวกนักเรียนเทคนิค พาณิชย์เช่า  เขาโกหกเราตั้งแต่แรกว่ารายได้ค่าเช่าของเขาเดือนละ 20,000 แต่ไปถามคนเช่าเขาจ่ายแค่ 1200 แล้วก็รวมค่าไฟ สภาพห้องก็สลัมสุดๆ  ตอนนั้นอะไรบังตาไม่รู้ทำให้ดูไม่ละเอียดถ้วนถึ่ สภาพห้องก็ไม่ดี แต่เราไม่ดูให้ละเอียด เมื่อเข้าไปทำแล้วต้องเสียเงินปรับปรุงเยอะทีเดียว ลุงแกจะขายทั้งหมด 2.5 ล้านบาท เราเลยขอเป็นเช่าแล้วกัน แกให้วางประกันของเสีย 70,000 ตอนแรกจะเอาแสนนึง จะมีของอะไรเสียหาย เพราะมันเน่าขนาดนี้ ที่นี่เมื่อตกลงทำแล้วก็ต้องหาช่างต่อไป แต่ช่างที่ได้มาก็แย่มากงานหยาบทำวันหยุดสองวัน ปวดหัวมากๆ แล้วจะมาเล่าต่อนะครับ ตอนนี้เลิกทำและขายอุปกรณ์ทิ้งหมดแล้ว  บทเรียนที่ ๑ จะเสียเงินดูให้ละเอียดรอบคอบ สภาพอาคารต้องดูให้ละเอียด ยิ่งไปเช่าเขาด้วย เรามีโอกาสเสียเปรียบได้มาก ควรจ้างช่างหรือวิศวกรเข้าไปดูสภาพและประเมินราคาค่าปรับปรุงด้วย  แต่นี่ผมไม่ทำเลย เอาเร็วอย่างเดียว พอซ่อมและปรับปรุง

เรื่องเศร้าของสาวออฟฟิส ติดหนี้บัตร

ขอเป็นโค้ชกะเขามั่ง ไม่ได้ตังค์หรอกนะ มีเคสนึง เป็นพนักงานออฟฟิส รุ่นใหญ่วัยราบ 11 คือใกล้หลักสี่ เป็นหนี้บัตรและสินเชื่อบุคคลสิริรวม 400,000 กว่าบาท ด้วยเงินเดือน 25,000 เหลือกินจริงๆ เดือนนึง ประมาณ 3,000 กว่าบาท เธอเล่าว่าบางที ซื้อไข่พะโล้มา ผ่าครึ่งกินทีละมื้อ เอาเงินไปให้จ่ายเจ้าหนี้ ดอกเบี้ยกินหมด เป็นงี้มาปีแล้วปีเล่า ตอนแรกแนะนำวิธีไป นางบอกไม่เอาอ่ะ กลัวเสียเครดิต ติดแบล็คลิสต์ บอกว่าจะกู้ซื้อคอนโดในอนาคต คิดในใจ มึงยังไม่รู้ตัว ใครเขาจะให้กู้ล่ะคุณ เต็มวงเงินขนาดนี้ ต้องคุยอยู่นาน และให้กลับไปคิด ตอนนั้นนางเปรียบเหมือนคนไข้อาการหนัก ต้องห้ามเลือดให้หยุดไหลก่อน และผ่าตัดใหญ่ สุดท้ายยอมทำตามที่แนะนำ ก็ตามนี้แหละนะ http://debtclub.consumerthai.org/index.php… ตอนนี้ หนี้บัตรหมดไปกว่าครึ่ง และไม่เครียด ไม่ต้องกินไข่พะโล้ผ่าครึ่งแต่ละมื้อแล้ว ยอมล้มในวันนี้ แล้วลุกขึ้นมาใหม่ดีกว่า หวังว่านางคงเข็ด

ไขข้อข้องใจการอายัดเงินเดือน

ถาม : ถูกศาลพิพากษาแล้ว อีกนานแค่ไหนถึงจะโดนอายัดเงินเดือน? ตอบ : การอายัดเงินเดือน หรือการอายัดทรัพย์ใดๆนั้น จะใช้เวลานานเท่าใดนั้น มันขึ้นอยู่กับความขยันของฝ่ายโจทก์(เจ้าหนี้) ที่จะเป็นผู้นำคำพิพากษาของศาล ไปเขียนคำร้องขอต่อกรมบังคับคดีให้เป็นผู้ทำการอายัด โดยให้เหตุผลว่าลูกหนี้ไม่ยอมชำระหนี้ตามคำพิพากษาของศาล(ดื้อแพ่ง) เจ้าหนี้จึงจำเป็นต้องยื่นคำร้องดังกล่าวต่อกรมบังคับคดี พร้อมกับแนบหลักฐานว่า เจ้าหนี้สืบพบว่าลูกหนี้ในคดีนี้ ทำงานอยู่ที่บริษัท xxxx จำกัด โดยหลังจากนี้ ทางกรมบังคับคดีก็จะจัดส่งจดหมาย ไปถึงยังผู้บริหารของบริษัท xxxx จำกัด เพื่อให้ทำการหักอายัดเงินเดือนของลูกจ้าง(จำเลยที่ถูกพิพากษา) พร้อมกับให้นายจ้างเป็นผู้นำส่งเงินที่อายัดจำนวนนี้ ส่งมาให้กรมบังคับคดีทุกเดือน เพื่อชดใช้หนี้ตามคำพิพากษาจนกว่าจะหมดหนี้ ดังนั้น...ระยะเวลาในการอายัดใดๆ ของกรมบังคับคดี หลังจากที่ศาลได้พิพากษาไปแล้วนั้น...มันจึงไม่แน่นอน (ถึงแม้นว่าในคำพิพากษา จะเขียนเอาไว้โดยชัดเจนว่า บังคับภายใน 15 หรือ 30 วัน ก็ตามที) เพราะเงื่อนไขของระยะเวลาดังกล่าว มันขึ้นอยู่กับทางฝ่ายโจทก์(เจ้า